ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ภูมิปัญญาท้องถิ่นบ้านตะโล๊ะหะลอ รวบรวมตั้งอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านตำบลตะโล๊ะหะลอ
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ภูมิปัญญาท้องถิ่นบ้านตะโล๊ะหะลอ
รวบรวมตั้งอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านตำบลตะโล๊ะหะลอ
ที่ตั้ง : หมู่ 5 ท่าเสด็จ, ตำบลตะโล๊ะหะลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา 95140
โดยมีภูมิปัญญาท้องถิ่น ดังนี้
1. กริชรามันห์
ข้อมูล/รายละเอียด
“กริชรามันห์” มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีต้นกำเนิดเมื่อ 200-300 ปีก่อน โดยเจ้าเมืองรามัน
ประสงค์ให้มีกริชเป็นอาวุธคู่บ้านคู่เมือง จึงได้เชิญช่างทำกริชจากอินโดนีเซียมาทำกริชที่เมืองรามัน และสืบทอดภูมิปัญญามาจนปัจจุบัน
กริชรามันห์ของชุมชนตะโละหะลอ เป็นรูปแบบศิลปะปัตตานี หรือที่เรียกกันว่า กริชตายง ซึ่งเป็น
กริชที่ทำมาในปัจจุบันนี้ โดยมีบรมจารย์คือ ช่างหลวงของเจ้าเมืองรามัน ถือว่าเป็นที่มาของกริชรามันห์ และจะรู้จักว่า กริชตะกูลบันไดสาระ มีศิลปะในรูปแบบปัตตานี ก็คือกริชตายง หรือกริชหัวนกพังกะ
| แกะสลักอย่างสวยงาม |
| โชว์ลีลาลวดลายการรำกริชอย่างอ่อนช้อย |
จุดเด่นการเรียนรู้- ประวัติศาสตร์และความสำคัญของกริชรามันห์
- ขั้นตอนวิธีการทำกริช
- ลีลาลวดลายการรำกริช
2. เบ้าขนมก้อ
จุดเด่นการเรียนรู้
- ประวัติศาสตร์และความสำคัญของกริชรามันห์
- ขั้นตอนวิธีการทำกริช
- ลีลาลวดลายการรำกริช
2. เบ้าขนมก้อ
ข้อมูล/รายละเอียด ลูกข่างถือเป็นการละเล่นไทยชนิดหนึ่ง ที่มีการเล่นโดยการผูกด้วยเชือก และขว้างลูกข่างลงพื้นให้เกิดการหมุน โดยมีกติกาการเล่นอยู่คือ หากขว้างลูกข่างไม่หมุนหรือออกนอกวงถือว่าแพ้ และผู้แพ้จะต้องนำลูกข่างของตนวางในวงกลมเพื่อให้คนอื่นใช้ลูกข่างที่พันเชือกขว้างไปบนลูกข่างนั้นเป็นการลงโทษ
จุดเด่นการเรียนรู้- ของเล่นพื้นบ้าน
- การทำลูกข่างไม้
- การนำสิ่งของเหลือใช้มาสร้างให้เกิดประโยชน์
6. ว่าวมลายู
ข้อมูล/รายละเอียด ลูกข่างถือเป็นการละเล่นไทยชนิดหนึ่ง ที่มีการเล่นโดยการผูกด้วยเชือก และขว้างลูกข่างลงพื้นให้เกิดการหมุน โดยมีกติกาการเล่นอยู่คือ หากขว้างลูกข่างไม่หมุนหรือออกนอกวงถือว่าแพ้ และผู้แพ้จะต้องนำลูกข่างของตนวางในวงกลมเพื่อให้คนอื่นใช้ลูกข่างที่พันเชือกขว้างไปบนลูกข่างนั้นเป็นการลงโทษ
จุดเด่นการเรียนรู้
- ของเล่นพื้นบ้าน
- การทำลูกข่างไม้
- การนำสิ่งของเหลือใช้มาสร้างให้เกิดประโยชน์
ข้อมูล/รายละเอียด ว่าววงเดือนเป็นของเล่นของเหล่าเทพเทวดา ทำให้ว่าววงเดือนมักจะมีรูปภาพลวดลายเป็นรูปเทวดา ว่าววงเดือน หรือเรียกว่า “วาบูแล หรือ วาบูลัน” ซึ่งบูลันนั้น แปลว่าดวงจันทร์ จึงทำให้ว่าวมีรูปดวงเดือนเป็นส่วนประกอบอยู่ตรงกลางลำตัว ระหว่าง ปีก และเขา ว่าววงเดือน มีสองแบบคือ แบบที่มีแอก และแบบไม่มีแอก บ้างก็ว่าว่าววงเดือนมาจากประเทศมาเลเซีย บ้างก็ว่าเป็นของชาวจังหวัดปัตตานี ความเป็นมาของว่าวบางคนบอกว่าว่าวมาจากประเทศมาเลเซีย และบางคนบอกว่ามาจากจังหวัดปัตตานี
จุดเด่นการเรียนรู้
- ที่มาและความสำคัญของว่าวมลายู
- วิธีการทำว่าวมลายู
1 ความคิดเห็น:
ต้องมีชื่อภูมิปัญญาด้วย จะได้ตามไปเรียนรู้ถูก
แสดงความคิดเห็น